บริษัทนำเข้าแรงงานต่างด้าว MOU บริการจัดหาแรงงาน พม่า ลาว กัมพูชา ถูกกฎหมาย
จิรวัฒน์

กรรมการ และผู้จัดการการตลาด TIP168

การนำเข้าแรงงานต่างด้าวตามระบบ MOU เพื่อการทำงานในประเทศไทย

การนำเข้าแรงงานต่างด้าวตามระบบ MOU เพื่อการทำงานในประเทศไทย

ประเทศไทยได้ทำข้อตกลงร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านในการนำเข้าแรงงานต่างด้าวผ่านระบบ "Memorandum of Understanding" หรือ MOU เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเป็นการจัดระเบียบและควบคุมการนำเข้าแรงงานต่างด้าวให้มีความปลอดภัย ถูกกฎหมาย ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นระหว่างประเทศไทยกับประเทศที่เป็นต้นทางของแรงงานต่างด้าว เช่น เมียนมา (พม่า) ลาว และกัมพูชา  ซึ่งการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตามระบบบันทึกความเข้าใจ (MOU) เป็นกระบวนการที่มีความสำคัญในการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวในประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องตาม พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานคนต่างด้าว พ.ศ. 2560  และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2561  ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการค้ามนุษย์ การทำงานผิดกฎหมาย และเพื่อให้การจ้างงานเป็นไปตามมาตรฐานสากล


1.ความสำคัญของระบบ MOU
      ระบบ MOU มีวัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริมการนำเข้าแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งมีขั้นตอนที่ชัดเจนในการตรวจสอบประวัติและคัดกรองแรงงานเพื่อป้องกันปัญหาการลักลอบนำเข้าแรงงาน ที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ การดำเนินการนี้ยังช่วยให้แรงงานต่างด้าวได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายไทยและมีสภาพการทำงานที่ปลอดภัย เป็นธรรม รวมถึงมีการจัดสวัสดิการและสิทธิพื้นฐานที่จำเป็น
2.ขั้นตอนการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตามระบบ MOU  
   การนำเข้าแรงงานMOU มีขั้นตอนสำคัญที่ต้องปฏิบัติดังนี้
      - การยื่นขอความต้องการแรงงาน : ที่สำนักงานจัดหางานในพื้นที่และระบุข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนและประเภทของแรงงานที่ต้องการ
      - การประสานงานระหว่างประเทศ : หลังจากที่คำขอได้รับการอนุมัติ จะมีการประสานงานกับหน่วยงานที่ดูแลด้านแรงงานของประเทศต้นทางเพื่อตรวจสอบและคัดเลือกแรงงานที่มี คุณสมบัติ ตรงตามที่กำหนด
      - การคัดเลือกแรงงานจากประเทศต้นทาง : คัดเลือกแรงงานตามความต้องการของนายจ้างในประเทศไทย โดยผ่านกระบวนการที่โปร่งใสและมีมาตรฐาน เช่น การตรวจสุขภาพและการ   ฝึกอบรมเบื้องต้นก่อนการเดินทาง
      - การตรวจสุขภาพและอบรม : แรงงานที่ได้รับคัดเลือกจะต้องผ่านการตรวจสุขภาพเบื้องต้น รวมถึงเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับสิทธิและข้อปฏิบัติที่จำเป็นในการทำงานและการพำนักใน         ประเทศไทย
      - การออกวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน :  นายจ้างที่จะนำเข้าแรงงานต่างด้าวจะต้องดำเนินการขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพเพิ่มเติม   และการอบรมเกี่ยวกับกฎหมายแรงงานไทยหลังจากเดินทางมาถึงประเทศไทย
3. สิทธิและหน้าที่ของแรงงานต่างด้าวภายใต้ระบบ MOU
    แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยตามระบบ MOU จะได้รับสิทธิและหน้าที่ตามที่กฎหมายไทยกำหนด ซึ่งประกอบด้วย:
     - สิทธิในการรับค่าจ้างที่เป็นธรรม : ได้รับค่าจ้างตามมาตรฐานขั้นต่ำและสวัสดิการอื่น ๆ เช่น ประกันสังคม
     - การคุ้มครองด้านสุขภาพและความปลอดภัย: ได้รับการคุ้มครองด้านสุขภาพและความปลอดภัยในการทำงาน รวมถึงการเข้าถึงการรักษาพยาบาลตามสิทธิที่กำหนด
     - หน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎหมาย : แรงงานต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการพำนักและการรายงานตัวตามที่กฎหมายกำหนด เช่น การรายงานตัวทุก 90 วันและการต่ออายุวีซ่าตาม   ระยะเวลาที่กำหนด
4. ประโยชน์ของระบบ MOU ต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย
ระบบ MOU ช่วยให้เศรษฐกิจไทยมีแรงงานเพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะในภาคการผลิต การก่อสร้าง และการเกษตร ซึ่งประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ ยังช่วยลดปัญหาการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายและการทำงานอย่างผิดกฎหมาย

 

5. สรุป
การนำเข้าแรงงานต่างด้าวตามระบบ MOU เป็นมาตรการสำคัญในการแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการคุ้มครองสิทธิและสวัสดิการของแรงงานต่างด้าว ลดปัญหาการเข้าเมืองผิดกฎหมาย และเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ  แม้ว่าระบบ MOU จะมีประโยชน์หลายประการ แต่ก็มีความยุ่งยากซับซ้อน ในกระบวนการ เพื่อการได้มาซึ่งการนำเข้าแรงงานต่างด้าว โดย วิธีในการนำเข้ามีสองรูปแบบคือนายจ้างสามารถนำเข้าเอง ก็ได้หรือผ่านบริษัทที่ได้รับการจดทะเบียน (บนจ) ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นตัวแทนและรับมอบอำนาจในการนำเข้าแรงงาน ซึ่งจะ ง่ายและรวดเร็วกว่า รวมไปถึง ไม่เสียเวลา และการดำเนินงาน  แนะนำ ให้ผ่านบริษัทที่ผ่านการจดทะเบียนที่ถูกต้องแล้วเท่านั้น  (เรียกว่า  บนจ.) ซึ่งจะได้รับการคุ้มครองดูแลรวมถึงตรวจสอบ การทำงานจาก บริษัทตัวแทนเหล่านี้โดยกรมการจัดหางาน มากกว่าผ่านนายหน้าซึ่งไม่ได้รับการจดทะเบียนหรือนายหน้าเถื่อน