การเปลี่ยนนายจ้าง ของแรงงานต่างด้าว MOU 3 สัญชาติ (พม่า กัมพูชา ลาว) ในประเทศไทย

การเปลี่ยนนายจ้างของแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (พม่า, กัมพูชา, ลาว) ในประเทศไทย ถูกกำหนดเพื่อให้แรงงานสามารถทำงานได้ถูกต้องตามกฎหมาย

ปฏิบัติตามขั้นตอนและกฎหมายที่กำหนด เพื่อให้แรงงานต่างด้าวสามารถเปลี่ยนนายจ้างได้โดยไม่เกิดปัญหาทางกฎหมาย

นี่คือขั้นตอนและรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง

1. การตรวจสอบสิทธิ์การเปลี่ยนนายจ้าง:

2. แรงงานต่างด้าวต้องตรวจสอบว่าวีซ่าและใบอนุญาตทำงานยังมีอายุเหลือเพียงพอสำหรับการดำเนินการเปลี่ยนนายจ้าง
3. การตรวจสอบว่ามีเหตุผลเพียงพอในการเปลี่ยนนายจ้างตามที่กฎหมายกำหนด พิจารณาจาก เงื่อนไขการเปลี่ยนนายจ้างแรงงานต่างด้าว
เหตุผลที่สามารถเปลี่ยนนายจ้างได้
นายจ้างเลิกจ้าง: อาจเกิดจากเหตุผลทางธุรกิจ หรือการผิดสัญญา
นายจ้างเสียชีวิต: ในกรณีที่นายจ้างเดิมเสียชีวิต
นายจ้างล้มละลาย: เมื่อบริษัทของนายจ้างเดิมล้มละลาย
นายจ้างกระทำทารุณกรรม: หากแรงงานถูกนายจ้างเดิมกระทำทารุณกรรมหรือทำร้ายร่างกาย
นายจ้างไม่ปฏิบัติตามสัญญา: กรณีที่นายจ้างเดิมไม่ปฏิบัติตามสัญญาจ้างหรือกฎหมายคุ้มครองแรงงาน
ลูกจ้างทำงานในสภาพแวดล้อมที่อันตราย: หากสถานที่ทำงานเดิมมีความเสี่ยงต่อชีวิตและสุขภาพของลูกจ้าง
นายจ้างใหม่ยินยอมชดใช้ค่าเสียหาย: นายจ้างรายใหม่ต้องยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับนายจ้างเดิม

ขั้นตอนการเปลี่ยนนายจ้าง

การแจ้งออกจากนายจ้างเก่า

นายจ้างเก่าต้องแจ้งออกภายใน 15 วันหลังจากที่แรงงานต่างด้าวออกจากงาน โดยต้องมีเอกสารดังนี้:

สำเนาพาสปอร์ต
สำเนาวีซ่า
สำเนาใบอนุญาตทำงาน
สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของนายจ้างเก่า

1.การแจ้งเข้าทำงานกับนายจ้างใหม่

2.นายจ้างใหม่ต้องแจ้งเข้าภายใน 30 วันหลังจากที่แรงงานต่างด้าวออกจากนายจ้างเก่า

3. ค่าธรรมเนียมและหลักประกัน ค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนนายจ้างอยู่ที่ 400 บาทต่อคน และต้องวางหลักประกันสำหรับแรงงานจำนวน 1,000 บาท

ระยะเวลาในการดำเนินการ

การเปลี่ยนแปลงจะต้องดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยกลุ่ม MOU ต้องทำการเปลี่ยนภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ออกจากนายจ้างเดิม หากเกินกำหนดจะต้องนำเข้า MOU ใหม่

การเปลี่ยนนายจ้างสำหรับแรงงานต่างด้าว MOU เป็นกระบวนการที่มีความสำคัญ เพื่อให้แรงงานสามารถทำงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นธรรมตามกฎหมายไทย.